Hello everyone
After spending a peaceful morning at Promthep Cape, gazing out at the endless stretch of ocean where the horizon kissed the sky, I decided to take a short drive to Yanui Beach. It’s a small beach, tucked away between Promthep Cape and the windmill viewpoint, a hidden gem that few people know about. The winding road down was quiet, with only the occasional breeze rustling the leaves of palm trees along the cliffs.
Yanui Beach always had a special charm. Its soft golden sands and clear, calm waters made it a haven for adventurers and sunseekers alike. On normal days, when the waves are gentle and the breeze mild, the beach comes alive with activity. Paddleboards glide across the surface of the water, while kayakers explore the rocky outcrops. Snorkelers dip below, mesmerized by the schools of colorful fish darting between the coral. My friends and I love coming here, especially in the late afternoons. There’s something magical about paddling out into the open water, letting the rhythm of the ocean carry us while we wait for the sun to set. The way the sky turns from bright blue to shades of pink, orange, and gold as the sun dips below the horizon always takes our breath away.
หลังจากใช้เวลาช่วงเช้าอันเงียบสงบที่แหลมพรหมเทพ มองออกไปที่ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ที่ขอบฟ้าบรรจบขอบฟ้า ฉันตัดสินใจขับรถไปไม่ไกลก็จะถึงหาดยะนุ้ย เป็นชายหาดเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ระหว่างแหลมพรหมเทพและจุดชมวิวกังหันลม อัญมณีที่ซ่อนอยู่ซึ่งน้อยคนนักจะรู้จัก ถนนที่คดเคี้ยวลงไปนั้นเงียบสงบ มีเพียงลมพัดเป็นครั้งคราวที่ใบต้นปาล์มตามหน้าผา
หาดยะนุ้ยมีเสน่ห์พิเศษเสมอ หาดทรายสีทองอันอ่อนนุ่มและน้ำทะเลที่ใสสงบทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับนักผจญภัยและผู้แสวงหาแสงแดด ในวันปกติ เมื่อคลื่นอ่อนและลมพัดเบาๆ ชายหาดก็จะมีชีวิตชีวาด้วยกิจกรรมต่างๆ แพดเดิลบอร์ดจะแล่นไปตามผิวน้ำ ในขณะที่นักพายเรือคายัคสำรวจหินโผล่ นักดำน้ำตื้นลงไปด้านล่างและตื่นตาไปกับฝูงปลาหลากสีสันที่แหวกว่ายไปมาระหว่างปะการัง ฉันและเพื่อนชอบมาที่นี่โดยเฉพาะในช่วงบ่ายแก่ๆ มีบางสิ่งที่น่าอัศจรรย์เกี่ยวกับการพายเรือออกไปในทะเลเปิด โดยปล่อยให้จังหวะของมหาสมุทรพาเราไปในขณะที่เรารอพระอาทิตย์ตกดิน การที่ท้องฟ้าเปลี่ยนจากสีฟ้าสดใสเป็นสีชมพู สีส้ม และสีทองเมื่อพระอาทิตย์ตกดินใต้ขอบฟ้าทำให้เราแทบหยุดหายใจ
But today, the beach was different. It was the rainy season, and the sea wasn’t the calm, welcoming expanse we were used to. Tall waves crashed onto the shore, and the wind whipped the palm trees into a frenzy. The local authorities had put up signs prohibiting all water activities. Paddleboards and kayaks remained neatly stacked on the beach, unused. The once-inviting waters were now unpredictable, and for the safety of everyone, no one was allowed to venture out.
Though disappointed, we understood the reason for the restrictions. Standing on the shore, we watched the powerful waves roll in, respecting the untamed beauty of the sea during this time of year. Even without kayaking or snorkeling, there was something captivating about Yanui Beach today—its raw, wild energy reminding us of the sea's strength and unpredictability. And as the rain clouds began to gather overhead, I knew I’d be back once the skies cleared and the waves returned to their calm, familiar rhythm.
แต่วันนี้ชายหาดแตกต่างออกไป เป็นช่วงฤดูฝน และทะเลไม่ใช่พื้นที่เงียบสงบและเป็นมิตรอย่างที่เราคุ้นเคย คลื่นสูงซัดเข้าชายฝั่ง และลมก็พัดต้นปาล์มจนบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ติดป้ายห้ามกิจกรรมทางน้ำทุกประเภท แพดเดิลบอร์ดและเรือคายัคยังคงวางซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบบนชายหาด โดยไม่ได้ใช้ น้ำที่ครั้งหนึ่งเคยเชิญชวนขณะนี้ไม่อาจคาดเดาได้ และเพื่อความปลอดภัยของทุกคน จึงไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกไปเสี่ยงภัย
แม้จะผิดหวัง แต่เราเข้าใจเหตุผลของข้อจำกัดดังกล่าว เมื่อยืนอยู่บนชายฝั่ง เราเฝ้าดูคลื่นอันทรงพลังม้วนตัวเข้ามา โดยเคารพความงามอันบริสุทธิ์ของท้องทะเลในช่วงเวลานี้ของปี แม้ว่าหาดยะนุ้ยจะไม่ได้พายเรือคายัคหรือดำน้ำตื้น แต่หาดยะนุ้ยก็ยังมีบางสิ่งที่น่าดึงดูดใจอยู่ในปัจจุบัน นั่นคือพลังที่ดิบและดุร้ายทำให้เรานึกถึงความแข็งแกร่งของทะเลและความคาดเดาไม่ได้ และในขณะที่เมฆฝนเริ่มรวมตัวกันเหนือศีรษะ ฉันรู้ว่าฉันจะกลับมาอีกครั้งเมื่อท้องฟ้าปลอดโปร่ง และคลื่นก็กลับสู่จังหวะที่สงบและคุ้นเคย
When I arrived at Yanui Beach, I noticed there weren’t many tourists around, likely due to the heavy rains that had been sweeping through the area in recent days. The rainy season had cast a quiet spell over the beach, and it seemed the usual crowd had chosen to stay away, waiting for clearer skies. However, on this particular day, the sun had made a brief appearance, breaking through the clouds and bathing the beach in a soft golden light.
A handful of tourists had taken the opportunity to venture out, lounging on the sands or walking along the shoreline, eager to enjoy the brief reprieve from the rain. Some sat under colorful umbrellas, reading books or simply taking in the peaceful ambiance of the sea. The air was fresh, with a salty breeze coming off the water, and the waves, though a bit high, had a calming rhythm to them.
Even with fewer people around, Yanui Beach retained its quiet charm. The stretch of golden sand, framed by rocky cliffs, created a tranquil retreat for those who had come to escape the usual bustle. The tourists who were there seemed to share a collective sense of gratitude for the sunshine, appreciating the beautiful sea atmosphere while it lasted, knowing that the next rain shower could come at any moment.
เมื่อมาถึงหาดยะนุ้ย สังเกตว่าบริเวณนี้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก อาจเนื่องมาจากฝนตกหนักที่พัดปกคลุมพื้นที่ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ฤดูฝนทำให้เกิดบรรยากาศอันเงียบสงบเหนือชายหาด และดูเหมือนว่าผู้คนทั่วไปเลือกที่จะอยู่ห่างๆ เพื่อรอท้องฟ้าที่สดใสยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ดวงอาทิตย์ปรากฏให้เห็นเพียงช่วงสั้นๆ ทะลุเมฆและอาบชายหาดด้วยแสงสีทองอันนุ่มนวล
นักท่องเที่ยวจำนวนไม่มากถือโอกาสออกไปผจญภัย นอนเล่นบนผืนทราย หรือเดินเลียบชายฝั่ง ด้วยความกระตือรือร้นที่จะเพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนช่วงสั้นๆ จากฝน บางคนนั่งใต้ร่มสีสันสดใส อ่านหนังสือ หรือเพียงดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันเงียบสงบของท้องทะเล อากาศสดชื่น มีลมเค็มพัดมาจากน้ำ และคลื่นแม้จะสูงสักหน่อยแต่ก็มีจังหวะที่สงบเงียบ
ถึงแม้คนจะน้อย แต่หาดยะนุ้ยก็ยังคงมีเสน่ห์อันเงียบสงบ หาดทรายสีทองที่ทอดยาวล้อมรอบด้วยหน้าผาหิน ทำให้เกิดสถานที่พักผ่อนอันเงียบสงบสำหรับผู้ที่มาเพื่อหลีกหนีจากความวุ่นวายตามปกติ นักท่องเที่ยวที่อยู่ที่นั่นดูเหมือนจะรู้สึกขอบคุณแสงแดดร่วมกัน ชื่นชมบรรยากาศทะเลที่สวยงามในขณะที่มันยาวนาน โดยรู้ว่าฝนครั้งหน้าจะมาได้ทุกเมื่อ
The atmosphere along the beach was breathtaking. The sky stretched endlessly, a brilliant blue that seamlessly blended with the crystal-clear sea. The rhythmic sound of waves crashing gently against the rocks created a soothing melody, echoing across the shore. I found a spot under a tall coconut tree, its fronds swaying softly in the cool, comforting breeze. The wind caressed my skin, carrying with it the salty scent of the ocean.
As I sat there, completely still, I let my eyes drift over the scene before me. The sea shimmered under the sunlight, each ripple catching the light like brushstrokes on a canvas. It was so stunning, so peaceful, that it felt almost unreal, like a painting brought to life. The beauty of the moment made everything else fade away.
I closed my eyes briefly, focusing on the gentle crashing of the waves, their sound so perfect and rhythmic that I wished I could listen to it forever. It was the kind of day where I could imagine myself lying down on the soft sand, letting the sound of the ocean lull me into a serene daydream, where time slowed down and nothing mattered except the endless music of the sea. I wanted to stay like that, listening to the waves, for the rest of the day.
Yanui Beach has become a paradise for those who love the sea, wind, and sun. Some tourists sunbathe, and some walk along the beach to get some sun. Most foreign tourists want to get a tan, so they often sunbathe, stand and sunbathe. Some people tie hammocks to coconut trees and read books. It is truly a perfect day of relaxation.
บรรยากาศริมชายหาดน่าทึ่งมาก ท้องฟ้าทอดยาวไม่รู้จบ เป็นสีฟ้าสดใสที่ผสมผสานกับน้ำทะเลใสดุจคริสตัลได้อย่างลงตัว เสียงคลื่นกระทบโขดหินเป็นจังหวะทำให้เกิดทำนองที่ผ่อนคลายสะท้อนไปทั่วชายฝั่ง ฉันพบจุดหนึ่งใต้ต้นมะพร้าวสูง ใบปลิวไหวเบาๆ ตามสายลมเย็นสบาย ลมพัดมาลูบไล้ผิวของฉัน พร้อมกับกลิ่นเค็มของมหาสมุทร
ขณะที่ฉันนั่งอยู่ตรงนั้น ฉันก็ปล่อยให้สายตาของฉันลอยไปเหนือฉากที่อยู่ตรงหน้า ทะเลส่องแสงระยิบระยับภายใต้แสงแดด แต่ละระลอกคลื่นจับแสงราวกับฝีแปรงบนผืนผ้าใบ มันน่าทึ่งมาก เงียบสงบมากจนรู้สึกเหมือนไม่จริง ราวกับภาพวาดมีชีวิตขึ้นมา ความงดงามในช่วงเวลานั้นทำให้ทุกสิ่งจางหายไป
ฉันหลับตาลงครู่หนึ่ง เพ่งความสนใจไปที่คลื่นที่กระทบอย่างนุ่มนวล เสียงของมันสมบูรณ์แบบและเป็นจังหวะจนฉันอยากจะฟังมันตลอดไป เป็นวันที่ฉันนึกภาพตัวเองนอนอยู่บนพื้นทรายนุ่มๆ ปล่อยให้เสียงของมหาสมุทรกล่อมฉันให้หลับฝันกลางวันอันเงียบสงบ ซึ่งเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ และไม่มีอะไรสำคัญนอกจากเสียงดนตรีจากท้องทะเลอันไม่มีที่สิ้นสุด ฉันอยากจะอยู่แบบนั้น ฟังเสียงคลื่นไปตลอดทั้งวัน
On a day as beautiful as this, if you glance up at the sky from the Windmill Viewpoint, you’ll catch sight of paragliders gracefully soaring through the air. Their colorful parachutes stand out against the clear blue sky, as they let the wind carry them effortlessly above the cliffs and the sea. It’s mesmerizing to watch them float higher and higher, as if they’re dancing with the breeze, embraced by the sky.
In the evening, the view becomes even more spectacular. The warm glow of the setting sun casts a golden light over the landscape, and the number of paragliders increases, their silhouettes scattered across the sky. With the sun slowly sinking into the horizon and the paragliders drifting through the air, it’s another breathtaking sight that makes this spot truly special. Watching them glide peacefully above the sea and cliffs creates an atmosphere of freedom and serenity, capturing the essence of the perfect coastal evening.
ในวันที่สวยงามเช่นนี้ หากมองขึ้นไปบนท้องฟ้าจากจุดชมวิวกังหันลม คุณก็จะได้เห็นนักร่มร่อนลอยอยู่ในอากาศอย่างสง่างาม ร่มชูชีพสีสันสดใสโดดเด่นตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าใส โดยปล่อยให้ลมพัดพาไปเหนือหน้าผาและทะเลได้อย่างง่ายดาย เป็นเรื่องน่าหลงใหลที่ได้เห็นพวกมันลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าพวกมันกำลังเต้นรำไปกับสายลมที่โอบกอดด้วยท้องฟ้า
ช่วงเย็นวิวจะยิ่งสวยงามยิ่งขึ้น แสงอันอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่กำลังตกทอดแสงสีทองไปทั่วทิวทัศน์ และจำนวนนักเล่นร่มร่อนก็เพิ่มขึ้น เงาของพวกมันก็กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า และร่มร่อนลอยไปในอากาศ นับเป็นภาพที่น่าทึ่งอีกภาพหนึ่งที่ทำให้สถานที่แห่งนี้พิเศษอย่างแท้จริง การเฝ้าดูพวกมันเหินอย่างสงบเหนือทะเลและหน้าผาสร้างบรรยากาศแห่งอิสรภาพและความเงียบสงบ รวบรวมแก่นแท้ของยามเย็นริมชายฝั่งที่สมบูรณ์แบบ
Thank you for your support
ขอบคุณสำหรับการโหวต
เลิฟนะยู้ววววววว