Hello everyone
At around 1:40 PM, we finally arrived at "My Beach Resort," nestled between Ao Yon and Khao Khad, where the soft sands stretched into the distance, meeting the turquoise waves. The sun hung high, casting a warm glow over the beach, and a gentle breeze swayed the palm trees along the shoreline. As soon as we stepped out of the car, the sea’s salty air filled our lungs, bringing with it a sense of calm.
The hotel stood right on the beach, offering a perfect view of the vast ocean. With every step towards the lobby, the sounds of the waves lapping against the shore seemed to grow closer, as if welcoming us to paradise. Before we could even ask for assistance, the staff greeted us with warm smiles. One of them quickly approached to help us with our bags, moving with such ease and friendliness that we felt immediately at home.
They guided us to the spacious lobby, where the modern, breezy decor gave a glimpse of the serenity that awaited us. The check-in process was seamless, and the service, flawless, making us feel more like guests in a friend’s home than visitors at a resort. This was the beginning of what promised to be a peaceful and rejuvenating retreat by the sea.
As we were about to check in, a staff member approached with a tray holding glasses filled with a vibrant blue drink. The color caught my eye immediately—it was as striking as the ocean just beyond the lobby's open windows. The glass was cool to the touch, condensation gently rolling down its surface.
With a smile, the staff handed us the drinks, and I couldn’t help but take a sip right away. The moment it touched my lips, I was greeted with a sweet, fragrant flavor that danced lightly on my tongue. It was both refreshing and soothing, like a perfect mix of tropical flowers and a hint of citrus. The drink felt like a welcome invitation to unwind, and with each sip, the stresses of the journey began to melt away.
The cool breeze from the beach and the refreshing drink in hand made it clear—we had truly arrived at a place where relaxation was woven into every moment.
While waiting to fill out the documents, I found myself unable to resist the urge to explore and take pictures of the hotel lobby, despite having visited before. The charm of the place always seemed to draw me in, no matter how familiar it was. I reached for my phone, capturing the serene atmosphere that felt almost too beautiful to be real.
The lobby was designed with comfort in mind, featuring long, plush sofas on both sides where guests could sit, unwind, and take in the surroundings while waiting for check-in or check-out. The calming neutral tones of the furniture created a welcoming ambiance, but it was the view beyond the lobby that truly stole the scene.
A large glass window spanned one entire wall, offering an uninterrupted view of the vast sea and sky. It was as if someone had painted the perfect coastal landscape—clouds lazily drifting in the sky, the sun casting a gentle glow over the shimmering blue water, and the horizon stretching endlessly. Each time I looked out, the scene felt like a living masterpiece, and I couldn’t help but snap a few photos, hoping to capture the essence of that moment.
เมื่อเวลาประมาณ 13.40 น. ในที่สุดเราก็มาถึง "มายบีช รีสอร์ท" ที่ตั้งอยู่ระหว่างอ่าวยนและเขาขาด ซึ่งมีหาดทรายนุ่มทอดยาวไปบรรจบกับเกลียวคลื่นสีฟ้าคราม พระอาทิตย์ลอยขึ้นสูง ทอดแสงอันอบอุ่นเหนือชายหาด และสายลมที่พัดเบาๆ ต้นปาล์มตามแนวชายฝั่ง ทันทีที่เราก้าวลงจากรถ อากาศเค็มของทะเลก็อบอ้าวเต็มปอด ทำให้เรารู้สึกสงบ
โรงแรมตั้งอยู่บนชายหาด มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ทุกย่างก้าวสู่ล็อบบี้ เสียงคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่งดูเหมือนจะใกล้เข้ามามากขึ้น ราวกับต้อนรับเราสู่สวรรค์ ก่อนที่เราจะขอความช่วยเหลือได้ พนักงานก็ทักทายเราด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น หนึ่งในนั้นเข้ามาช่วยเรายกกระเป๋าอย่างรวดเร็ว โดยย้ายอย่างง่ายดายและเป็นกันเองจนเรารู้สึกเหมือนอยู่บ้านทันที
พวกเขาพาเราไปที่ล็อบบี้อันกว้างขวาง ซึ่งการตกแต่งที่ทันสมัยและโปร่งสบายทำให้มองเห็นความเงียบสงบที่รอเราอยู่ ขั้นตอนการเช็คอินราบรื่น และบริการไม่มีที่ติ ทำให้เรารู้สึกเหมือนแขกในบ้านเพื่อนมากกว่าผู้มาเยือนรีสอร์ท นี่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่สัญญาว่าจะเป็นสถานที่พักผ่อนริมทะเลอันเงียบสงบและสดชื่น
ขณะที่เรากำลังจะเช็คอิน พนักงานคนหนึ่งเดินเข้ามาหาถาดพร้อมแก้วที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มสีน้ำเงินสดใส สีนี้ดึงดูดสายตาของฉันทันที มันโดดเด่นพอๆ กับมหาสมุทรที่อยู่เลยหน้าต่างที่เปิดอยู่ของล็อบบี้ กระจกมีความเย็นเมื่อสัมผัส โดยมีการควบแน่นค่อยๆ กลิ้งลงมาตามพื้นผิว
พนักงานก็ยื่นเครื่องดื่มให้เราด้วยรอยยิ้ม ฉันก็อดจิบไปทันที ทันทีที่มันแตะริมฝีปากของฉัน ฉันก็ได้รับการต้อนรับด้วยกลิ่นอันหอมหวานที่เต้นเบาๆ บนลิ้นของฉัน มันทั้งสดชื่นและผ่อนคลาย ราวกับส่วนผสมที่ลงตัวของดอกไม้เมืองร้อนและกลิ่นซิตรัส เครื่องดื่มให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการเชิญชวนให้ผ่อนคลาย และทุกครั้งที่จิบ ความเครียดจากการเดินทางก็เริ่มคลายตัวลง
สายลมเย็นๆ จากชายหาดและเครื่องดื่มสดชื่นในมือทำให้ชัดเจน—เรามาถึงสถานที่ที่ความผ่อนคลายถักทออยู่ในทุกช่วงเวลาอย่างแท้จริงแล้ว
ระหว่างรอกรอกเอกสาร ฉันพบว่าตัวเองอดไม่ได้ที่จะสำรวจและถ่ายรูปล็อบบี้ของโรงแรม แม้จะเคยไปมาแล้วก็ตาม เสน่ห์ของสถานที่นี้ดูเหมือนจะดึงดูดฉันอยู่เสมอ ไม่ว่ามันจะคุ้นเคยแค่ไหนก็ตาม ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจับภาพบรรยากาศอันเงียบสงบที่เกือบจะสวยงามเกินกว่าที่จะเป็นจริงได้
ล็อบบี้ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบาย โดยมีโซฟายาวนุ่มสบายทั้งสองด้าน ซึ่งแขกสามารถนั่งพักผ่อน และชื่นชมบรรยากาศโดยรอบขณะรอเช็คอินหรือเช็คเอาท์ เฟอร์นิเจอร์โทนสีกลางที่สงบเงียบสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น แต่วิวที่อยู่เลยล็อบบี้กลับขโมยซีนไปอย่างแท้จริง
หน้าต่างกระจกบานใหญ่ทอดยาวทั้งผนัง ทำให้มองเห็นทะเลและท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ได้อย่างต่อเนื่อง ราวกับว่ามีใครบางคนวาดภาพทิวทัศน์ชายฝั่งทะเลที่สมบูรณ์แบบ—เมฆลอยอย่างเกียจคร้านบนท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ส่องแสงอันอ่อนโยนเหนือผืนน้ำสีฟ้าที่ส่องประกาย และเส้นขอบฟ้าที่ทอดยาวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่ละครั้งที่ฉันมองออกไป ฉากนั้นให้ความรู้สึกเหมือนเป็นผลงานชิ้นเอกที่มีชีวิต และฉันก็อดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพสักสองสามภาพ โดยหวังว่าจะจับภาพแก่นแท้ของช่วงเวลานั้น
หลังจากเช็คอินแล้ว พนักงานก็พาเราไปที่ห้องพักซึ่งอยู่ใกล้ล็อบบี้สะดวก ขณะที่เราเดิน เสียงคลื่นก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ฉันคาดหวังมากขึ้น เมื่อเราไปถึงประตู ฉันหายใจเข้าลึกๆ แล้วเปิดมันออก และทันใดนั้น คลื่นแห่งความประหลาดใจก็เข้ามาปกคลุมฉันทันที ถึงแม้จะได้เห็นภาพห้องก่อนจองก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับการเห็นด้วยตาตัวเอง
ห้องสวยกว่าที่คิดไว้มาก มันกว้างขวางอย่างไม่น่าเชื่อด้วยการตกแต่งที่ทันสมัยที่ผสมผสานอย่างลงตัวกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เตียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง ตำแหน่งที่หันหน้าเข้าหาทะเลอย่างสมบูรณ์แบบ หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานทำให้ห้องมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่ง ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชายหาด
ขณะที่ฉันยืนอยู่ที่นั่น ฉันตระหนักได้ว่าทริปนี้จะสมบูรณ์แบบขนาดไหน ไม่ว่าฉันจะตื่นมาเมื่อใด สิ่งแรกที่ฉันเห็นคือทะเลอันเงียบสงบที่ทอดยาวตรงหน้าฉัน ขอบฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุดเชิญชวนให้ความสงบและความเงียบสงบ นี่เป็นประสบการณ์ที่ฉันโหยหา และดียิ่งกว่าที่ฉันเคยคาดหวังไว้
After checking in, the staff guided us to our room, which was conveniently close to the lobby. As we walked, the sound of the waves grew louder, heightening my anticipation. Once we reached the door, I took a deep breath and opened it, and immediately, a wave of surprise washed over me. Even though I had seen pictures of the room before booking, nothing could compare to seeing it with my own eyes.
The room was far more beautiful than I had imagined. It was incredibly spacious, with modern decor that blended seamlessly with the natural surroundings. A large bed stood at the center, perfectly positioned to face the sea. The floor-to-ceiling windows allowed the breathtaking view to flood the room, making it feel like an extension of the beach itself.
As I stood there, I realized how perfect this trip was going to be. No matter when I woke up, the first thing I would see would be the tranquil sea stretching out before me, its endless horizon inviting peace and serenity. This was the experience I had been longing for, and it was even better than I had ever hoped.
The room also featured a very wide balcony, and as I stepped outside, I was instantly captivated by its design. At the edge of the balcony, a large, round sofa was perfectly placed for lounging and taking in the panoramic view of the sea. It was the ideal spot to relax, with the breeze carrying the scent of saltwater and the sound of waves gently crashing below. I could already picture myself spending hours there, soaking in the beauty of the ocean.
Opposite the sofa was another delightful surprise—a large bathtub, strategically positioned so that you could sink into its warm waters while gazing out at the endless horizon. The idea of unwinding in the bath, surrounded by the peaceful sounds of nature and the sight of the vast blue sea, felt like pure luxury. There was truly nothing more enjoyable than this—an experience that promised complete relaxation and bliss.
ห้องมีระเบียงที่กว้างมาก และเมื่อฉันก้าวออกไปข้างนอก ฉันก็รู้สึกประทับใจกับการออกแบบทันที ที่ขอบระเบียงมีโซฟาทรงกลมขนาดใหญ่จัดวางอย่างลงตัวสำหรับการพักผ่อนและชมทิวทัศน์ของทะเลแบบพาโนรามา เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน โดยมีสายลมที่อบอวลไปด้วยกลิ่นของน้ำเค็ม และเสียงคลื่นที่ซัดเบาๆ ด้านล่าง ฉันนึกภาพตัวเองใช้เวลาหลายชั่วโมงที่นั่น ดื่มด่ำกับความงามของมหาสมุทร
ตรงข้ามโซฟาเป็นอีกเรื่องที่น่าประหลาดใจ นั่นคืออ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่จัดวางอย่างเหมาะเจาะเพื่อให้คุณสามารถจมลงในน้ำอุ่นขณะมองออกไปที่ขอบฟ้าอันไม่มีที่สิ้นสุด ความคิดที่จะผ่อนคลายในอ่างอาบน้ำที่รายล้อมด้วยเสียงอันเงียบสงบของธรรมชาติและทิวทัศน์ของทะเลสีฟ้ากว้างใหญ่ให้ความรู้สึกหรูหราอย่างแท้จริง ไม่มีอะไรน่าสนุกไปกว่านี้อีกแล้ว—ประสบการณ์ที่สัญญาว่าจะผ่อนคลายและมีความสุขอย่างเต็มที่
Near the bed, there was a spacious bathroom that instantly caught my attention. It had both wet and dry zones, thoughtfully designed for comfort and practicality. What stood out the most was the clear glass wall that separated the bathroom from the rest of the room, allowing a seamless connection with the outside view. From the shower, I could look out and see the beautiful scenery beyond the room, bringing the sense of being close to nature even indoors.
Of course, for privacy, there were blinds that could be drawn when needed, offering the perfect balance between openness and discretion. I couldn’t help but admire the design—it was sleek, modern, and exactly the kind of bathroom I love. The glass gave it a light, airy feel, and being able to catch glimpses of the sea even from inside made it feel all the more luxurious.
ใกล้เตียงมีห้องน้ำกว้างขวางดึงดูดความสนใจของฉันทันที มีทั้งโซนเปียกและโซนแห้ง ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อความสบายและใช้งานได้จริง สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือผนังกระจกใสที่แยกห้องน้ำออกจากส่วนอื่นๆ ของห้อง ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับวิวภายนอกได้อย่างราบรื่น จากห้องอาบน้ำ ฉันสามารถมองออกไปเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามนอกเหนือจากห้อง ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติแม้กระทั่งในบ้าน
แน่นอนว่าเพื่อความเป็นส่วนตัว มีมู่ลี่ที่สามารถดึงออกได้เมื่อจำเป็น ทำให้เกิดความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างความเปิดกว้างและดุลยพินิจ ฉันอดไม่ได้ที่จะชื่นชมการออกแบบนี้ มันโฉบเฉี่ยว ทันสมัย และเป็นห้องน้ำที่ฉันชอบจริงๆ กระจกให้ความรู้สึกเบา โปร่งสบาย และมองเห็นทะเลได้แม้จากด้านใน ทำให้รู้สึกหรูหรายิ่งขึ้น
After unpacking and exploring the room, we decided to change clothes and head to the hotel’s cafe. It was a beautiful spot, right by the beach, where the sound of the waves and the gentle sea breeze created the perfect atmosphere for a relaxing afternoon. We had visited this cafe once a few months ago, and I had been looking forward to returning ever since.
The hotel itself was designed to blend seamlessly with the natural landscape, built gradually along the hillside, with each level leading down towards the beach. Our room, located on the top floor, offered the best sea view, but it was also the furthest from the beach. Still, the view was worth every step—endless blue ocean stretching out before us.
The hotel offered a variety of rooms at different price points, each with its own unique appeal. Initially, I had wanted to stay in one of the rooms with a private swimming pool, but those didn’t come with a sea view. In the end, we had to choose between the pool or the view, and I’m glad we opted for the view—it felt like we had the ocean right at our doorstep.
หลังจากแกะของและสำรวจห้องเสร็จ เราก็ตัดสินใจเปลี่ยนเสื้อผ้าและมุ่งหน้าไปที่ร้านกาแฟของโรงแรม เป็นจุดที่สวยงามริมชายหาด ซึ่งเสียงคลื่นและลมทะเลที่พัดเบาๆ ทำให้เกิดบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนยามบ่าย เราเคยไปร้านกาแฟแห่งนี้เมื่อไม่กี่เดือนก่อน และฉันก็ตั้งตารอที่จะกลับมาอีกนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ตัวโรงแรมได้รับการออกแบบให้ผสมผสานอย่างลงตัวกับภูมิทัศน์ธรรมชาติ ค่อยๆ สร้างขึ้นตามแนวเนินเขา โดยแต่ละชั้นทอดยาวลงสู่ชายหาด ห้องพักของเราตั้งอยู่บนชั้นบนสุด มองเห็นวิวทะเลได้ดีที่สุด แต่ก็อยู่ห่างจากชายหาดมากที่สุดเช่นกัน ถึงกระนั้น ทิวทัศน์ก็คุ้มค่าทุกย่างก้าว—มหาสมุทรสีฟ้าอันกว้างใหญ่ที่ทอดยาวตรงหน้าเรา
โรงแรมมีห้องพักหลากหลายประเภทในราคาที่แตกต่างกัน โดยแต่ละห้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตอนแรกฉันอยากจะพักห้องใดห้องหนึ่งที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว แต่ห้องเหล่านั้นไม่มีวิวทะเล สุดท้ายแล้ว เราต้องเลือกระหว่างสระว่ายน้ำหรือวิว และฉันดีใจที่เลือกวิว รู้สึกเหมือนมีทะเลอยู่หน้าประตูบ้านเลย
Thank you for your support
ขอบคุณสำหรับการโหวต
เลิฟนะยู้ววววววว
I love This sky colour.